หลายคนถามว่าการเขียนบทความเพื่อสอนใจคนอื่นโดยทั่วไปนั้น เราได้ประโยชน์อย่างไร แต่แน่นอนว่าเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านเต็ม ๆ เพราะผู้อ่านสามารถอ่าน ทำความเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นการสอนด้านควบคุมภาวะอารมณ์ สอนคติเตือนใจ แนวคิดการใช้ชีวิตให้มีความสุข ทั้งหมดล้วนเป็นประโยชน์ต่อสังคม แต่ด้วยโลกที่ดำเนินด้วยเทคโนโลยี และอินเตอร์เน็ต บางครั้งบทความที่เราอ่านทั่ว ๆ ไปก็เขียนขึ้นมาโดยไม่มีข้อมูลอ้างอิง หรือมีความน่าเชื่อถือ บทความสอนใจนั้น สามารถใช้ส่วนประกอบของหลักความจริง หรือเรื่องราวในชีวิต ประวัติศาสตร์ของคนรุ่นหลัง เขียนเพื่อสอนใจว่าอะไรคือสาเหตุ อะไรคือผลลัพธ์ เช่นการสอนในเรื่องของความกตัญญุตา เมื่อเราเคารพและตอบแทนผู้ที่มีบุญคุณย่อมเจริญในหน้าที่การงาน และชีวิต เป็นต้น ซึ่งประโยชน์เหล่านี้หละ ที่เมื่อผู้อ่านจะได้นำไปครุ่นคิดและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งเป็นประโยชน์ของฝั่งผู้อ่าน แต่เมื่อเรามาพูดของประโยชน์ของผู้เขียน พวกเขาได้อะไรตอบผลกันบ้าง ผู้เขียนบทความสอนใจนั้น จะเป็นใครก็ได้ อาจจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตมากมาย หรือจะเป็นนักเรียนที่ศึกษาเรื่องราวในประวัตศาสตร์และนำมาเขียนเป็นเรื่องราวสอนใจ ว่าสมัยก่อนผู้คนทำอะไร และได้รับผลอย่างไร โดยผลตอบแทนของผู้เขียนนั้นอาจจะไม่มีเลยก็ได้ นักเขียนบางคนนั้นลงทุนทั้งแรงกาย แรงใจ รวมถึงอาจจะเป็นทรัพสินส่วนตัวด้วย เพื่อการเขียนบทความที่มีคุณค่าและประโยชน์แก่สังคม ถือว่าเป็นตัวอย่างที่น่านับถือสำหรับเพื่อนมนษย์ที่มีจิตใจดีงาม ในส่วนตรงกันข้ามก็คือบุคคลที่ประกอบอาชีพเป็นนักเขียนนั่นเอง แน่นอนว่าพวกเขาได้รับผลตอบแทนจากการเขียน อย่างเช่นการจ้างงานของสำนักต่าง ๆ ให้เขียนบทความ แต่ในเรื่องส่วนเนื้อหานั้นก็เป็นไปตามคุณภาพของนักเขียน และความกดดันไม่เหมือนกับบุคคลที่เขียนขึ้นมาด้วยใจ เพราะไม่มีเรื่องในส่วนของเวลาในการบีบบังคับ สามารถใช้เวลาในการเรียบเรียง และสื่อความหมายกับผู้อ่านได้อย่างครบถ้วน และสามารถที่จำนำไปใช้ได้จริง […]